ขันติเป็นธรรม เครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง

ขันติเป็นธรรม เครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง
โดย  เจ้าคุณอลงกต  วัดพระบาทน้ำพุ



         เมื่อเรายังต้องอยู่กับความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่าง  เราควรต้องยอมรับและต้องพร้อมที่จะปรับตัวตลอดเวลา  เพราะเราไม่สามารถที่จะเลือกอยู่ที่ใดที่หนึ่งได้ตลอด เราไม่สามารถที่จะควบคุมสภาพแวดล้อม หรือเหตุปัจจัยต่างๆ  อย่างที่ใจเราต้องการได้ทั้งหมด  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ "คน"  และ  "ใจคน"  ที่แตกต่างกันไป  เราจึงต้องรู้จักการปรับตัวกับคนที่เราต้องพบเจอ และยังต้องรู้จักปรับใจให้อยู่กับคนอื่นได้ในที่ที่เราไม่อาจจะหลีกหนีได้ด้วย  หลายสิ่งที่เรารู้แล้ว  หลายคนที่เราก็รู้แล้วว่าเราไม่ชอบ แต่เราไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้นหรือคนเหล่านั้นได้  เราก็จำเป็นที่จะต้องปรับตัวเรา  โดยเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจและยอมรับความจริง  ซึ่งจะช่วยให้เราปล่อยวางความต้องการของเราได้มากขึ้น ไม่ต้องหงุดหงิดรำคาญใจกับสิ่งเหล่านั้น

         แต่หากเราทำไม่ได้ทั้งหมดก็ยังมีคำว่า "อดทน"  ซึ่งความอดทนเป็นเรื่องเฉพาะคนที่เราจะต้องฝึกฝน  ความอดทนยิ่งมีมากก็ยิ่งดี  ยิ่งมีประโยชน์  รวมทั้งเป็นสิ่งที่เราจะต้องมีไว้ใช้ตลอดชีวิต  เพราะชีวิตของคนเราทุกคนจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เราไม่รัก ไม่ชอบ  ไม่พอใจ  ไปตลอดชีวิต  เนื่องจากสิ่งทั้งหลาย  รวมทั้งผู้คนไม่ได้เป็นไปตามที่ใจเราปราถนา  ดังนั้น  คนที่มีความอดทนน้อย หรือหมดความอดทนแล้ว ชีวิตก็มักจะเกิดเรื่องเลวร้ายได้อย่างไม่คาดคิด

        ขันติ  คือ  ความอดทนอดกลั้นนั้นเป็นคุณธรรมสำคัญที่เกิดขึ้นได้ด้วยการฝึกจิตของตน  โดยการตั้งสติไว้ให้ดีในทุกขณะ  เมื่อต้องประสบกับเหตุที่ไม่ถูกใจ  ไม่ชอบใจ  ไม่เป็นที่พอใจก็ต้องใช้หลักพิจารณาให้เห็นว่า  เป็นเรื่องธรรมดาของโลก  เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต  เป็นเรื่องธรรมดาของคน  หากเราไม่ต้องการให้เกิดเรือ่งเกิดราว  เกิดความเสียหาย  เราจะต้องตั้งสติไว้ให้มากและมั่นคง  โดยเฉพาะอารมณ์ที่ชื่อว่า "โทสะ"  ซึ่งหมายถึง  ความโมโห  ความโกรธ  ความขัดเคืองใจ  และจะทำให้เราใจร้อน เมื่อใจร้อนแล้ว  เราจะไม่สามารถพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตามความเป็นจริง  ไม่สามารถมองเห็นเหตุและผลในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน ดังนั้น จึงเกิดการตัดสินใจทำไปตามอารมณ์ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่อาจเกิดความผิดพลาดได้โดยง่าย  และเมื่อความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว  ย่อมส่งผลเสียหายตามมา  รวมทั้งไม่อาจจะย้อนเวลาไปแก้ไขตอนเริ่มต้นได้อีกอย่างแน่นอน

        แทบทุกวัน  เราต้องพบเจอเรื่องที่ไม่ถูกใจเรา  พร้อมทั้งต้องเจอคนที่เราไม่ชอบใจ  เพราะคนเรามีอุปนิสัยต่างกันไป  มีความคิดต่างกันไป  มีความต้องการต่างกันไป  รวมทั้งคุณธรรมแตกต่างกันไป เรื่องเหล่านี้เราต้องหมั่นคิดพิจารณาให้ใจของเราคุ้นเคยเพื่อความเข้าใจและยอมรับ    รวมทั้งจะต้องฝึกการเตรียมความพร้อมด้วยการคิดบ่อยๆ ว่า หากเรื่องนี้เรื่องนั้นเกิดขึ้น  เราควรจะทำอย่างไร  ทำอย่างไร จึงไม่เกิดปัญหา  ทำอย่างไรถึงจะดีกว่า  ทำอย่างไรถึงจะดีที่สุด  ซึ่งการคิดไว้ล่วงหน้าถึงความเป็นไปได้นับได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

       ในบางครั้งเราจำเป็นต้องอยู่กับเรื่องแบบนี้  กับคนแบบนี้ด้วยความอดทน และจะต้องมีสติเสมอ  อย่าเผลอตัวตัดสินใจทำอะไรตามอารมณ์  โดยเฉพาะอารมณ์โกรธ  ไม่ว่าเราหรือเขา  ถ้าความโกรธเข้า ครอบงำ  ก็จะทำอะไรรุนแรงได้เสมอ  อดทนอดกลั้นไว้ดีกว่า  เรื่องร้ายๆ  ย่อมคลี่คลายไปตามกาลเวลา

       ถ้าเราไม่มีขันติ ทำให้เราเกิดความโกรธแค้น เกลียดชัง ใจขุ่นหมอง ใจวุ่นวาย คอยแต่คิดเรื่องการแก้แค้น ทำร้ายคนอื่น เหมือนตกนรกทั้งเป็น แต่ถ้าคนอื่นจะทำร้ายเราด้วยอาวุธ กรณีนี้ก็คงต้องป้องกันตัว ถ้ายึดขันติอยู่เฉยๆ คงโดนทำร้าย


#ขันติ  คือ

Comments