เตือนภัย!!! ช้อปปิ้งสิ้นค้าออนไลน์

เตือนภัย!!! ช้อปปิ้งสิ้นค้าออนไลน์
มั่นใจก่อนสั่งซื้อ

ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ชอบความสะดวกสบาย รวดเร็ว ประหยัดเวลา และไม่ต้องเดินทาง ปัจจุบันเราจัดจึงเห็นรูปแบบการซื้อขายสินค้าแบบใหม่ๆ คือ การช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น อยู่บ้าน บนรถ ที่ทำงาน หรือสถานที่ไหนๆ ก็สามารถซื้อของแบบที่เราต้องการได้เลย โดยผู้ซื้อและผู้ขายไม่จำเป็นต้องมาพบหน้ากันหรือมีหน้าร้าน

การช้อปปิ้งออนไลน์มีหลายช่องทางที่เรามักพบเห็น ได้แก่ การซื้อขายผ่านทางเว็บไชต์ E-commerce เช่น WeloveShopping, Tarad, Lazada หรือสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Instragram, Line ซึ่งเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้

ลักษณะของการโกงในช้อปปิ้งออนไลน์
วิธีการที่มิจฉาชีพนำมาใช้ในการขายสินค้าออนไลน์มีหลายรูปแบบหลายวิธี ถ้าหากเขารู้เท่าทันกลโกงต่างๆ เหล่านี้ เราจะเป็นผู้บริโภคไม่ตกเป็นเหยื่อ และไม่ต้องมานั่งเจ็บใจทีหลัง

- ไม่ส่งสินค้าตามที่สั่งซื้อเมื่อได้รับเงินโอนจากลูกค้าแล้ว บางรายอาจปิดโทรศัพท์หนี หรือไม่สามารถติดต่อได้เลย ซึ่งวิธีการนี้เราจะพบเห็นได้จากข่าวในทีวีกันเยอะแยะ เช่น สั่งซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดัง สุดท้ายไม่ได้รับสินค้าตามที่สั่งซื้อ บางรายก้สามารถติดตามเรียกร้องค่าเสียหายได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทำให้ผู้ซื้อสูญเสียเงินมูลค่ามหาศาลมาแล้ว

- กล่าวอ้างสรรพคุณที่เกินจริง ทั้งๆ ที่สินค้าดังกล่าวไม่ได้มีสรรพคุณตามที่กล่าวอ้าง ส่วนใหญ่จะพบเห็นสินค้าประเภทอาหารเสริม ยา เครื่องสำอาง เป็นต้น สินค้าบางอย่างอาจจะผ่านหรือไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แต่ก็นำไปกล่าวอ้างจนเรียกว่า โอเว่อร์!! จากความเป็นจริงมาก หรือสินค้าบางอย่างก็ผสมสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

- ของเลียนแบบ / ของปลอม ตอนลงขายระบุว่า สินค้านี้เป็นสินค้าหรือออเดอร์มาจากต่างประเทศบ้าง เป็นสินค้าแบรนด์เนมจากเคาร์เตอร์ในเมืองไทยบ้าง เช่น กระเป๋ายี่ห้อดัง ตอนลงขายอาจจะลงรูปสินค้าจริง แต่ตอนจัดส่งก็จะส่งของปลอมให้กับลูกค้าแทน

- สินค้าที่ได้รับไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ สั่งอีกอย่าง แต่ได้อีกอย่าง ที่เคยเป็นข่าวกันมา เช่น สั่งโทรศัพท์มือถือ แต่กลับได้เป็นก้อนอิฐมาแทน

- ใช้ดารา เซเลป หรือคนมีชื่อเสียง มากล่าวอ้าง เพื่อโปรโมตสินค้านั้นๆ เป้นการสร้างความน่าเชื่อถือแก่ผู้ซื้อ ซึ่งจะใช้จริงหรือไม่จริงนั้น คงยากที่จะพิสูจน์ได้

ข้อควรรู้ก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์

• ดูความน่าเชื่อถือของผู้ขาย มีชื่อสกุล เบอร์โทรศัพท์ ชื่อร้านค้า account เพื่อดูประวัติว่า เคยมีคนพูดถึงหรือเคยโกงมาก่อนหรือไม่ ถ้าร้านค้านั้นได้จดทะเบียนการค้ากับกระทรวงพาณิชย์ก็ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือขึ้นไปอีก

• ดูรีวิว หรือเสียงตอบรับจากผู้ที่เคยซื้อมาก่อนหน้านี้

• ติดตามความเคลื่อนไหว ว่าแม่ค้ามีความจริงใจที่จะขายของจริงๆ มีการแจ้งสถานะเลขพัสดุส่งสินค้าหรือไม่ มีการส่งสินค้าเพิ่มหรือไม่

• หากไม่มั่นใจ ควรซื้อสินค้าที่มีมูลค่าไม่สูงมากนัก หรือสั่งจำนวนไม่มากจนเกินไป\

• ที่สำคัญ (หากเป็นไปได้) การชำระเงินที่ดีที่สุด คือ เก็บเงินปลายทาง เพราะมั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าก่อนจ่ายเงินแน่นอน แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ขายมักจะให้โอนเงินก่อนเสมอ เราจึงควรตรวจสอบบัญชีของผู้ขายเพื่อความมั่นใจก่อนตัดสินใจโอนเงิน

เมื่อโดนหลอก/โกง เราควรทำอย่างไร

1. รวบรวมหลักฐานต่างๆ เช่น หลักฐานการโอนเงิน ข้อมูลร้านค้า ข้อมูลผู้ขาย เว็บไซต์ หรือ Social media ต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, Line หรือ Twitter ที่ผู้ขายใช้เป็นช่องทางการขายสินค้านั้นๆ

2. นำหลักฐานดังกล่าวที่ว่า ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.พื้นที่ สำหรับคดีในลักษณะนี้จะอายุความไม่เกิน 3 เดือน หลังจากถูกโกง

3. อีกช่องทางหนึ่งในการร้องเรียน คือ ศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี เพื่อสืบหาตัวมิจฉาชีพมาดำเนินคดีให้ได้ต่อไป

นับวันสินค้าออนไลน์ยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้น พ่อค้าแม่ค้าก็มากขึ้นตามไปด้วย เพราะมีช่องทางการขายตามสื่อโซเซียลต่างๆ มากมาย นั่นหมายถึง อาจทำให้มิจฉาชีพในคราบพ่อค้าแม่ค้าบางคน สบโอกาสในการใช้กลโกงต่างๆ อย่างที่ผู้บริโภคไม่ทันระวังตัว หากใครที่รักการช้อปปิ้งออนไลน์เช่นนี้ ควรเพิ่มการตรวจสอบจนแน่ใจก่อนใช้บริการ ไม่เช่นนั้นโดนหลอกให้เจ็บใจ แล้วยังเสียเงินเสียเวลาอีกต่างหาก...

#เตือนภัยช้อปปิ้งสิ้นค้าออนไลน์