คิดแบบคนรวย

คิดแบบคนรวย

มาดูนิยาม "คนรวย" และ 
งานวิจัยของ Thomas C. Corley 
ว่าคนรวย แตกต่างกับ คนจน อย่างไร

คนที่รวยที่สุดในโลกนั้นมาจากพื้นเพที่แตกต่างกัน
แต่ว่าพวกเขาเหล่านั้นมี “นิสัย” ที่เหมือนกัน

จำนวนมหาเศรษฐีในสหรัฐฯ (Millionaire – $US) 31,680,000 คน

จำนวนเศรษฐีในสหรัฐฯ (Billionaire – $US) 1,426 คน

 จากงานวิจัยของ Thomas C. Corley ทำการสำรวจคนที่ “มั่งคั่ง” หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า “คนรวย” 233 คน และ “คนจน” 128 คน โดย “คนรวย” และ “คนจน” มีนิยาม ดังนี้


 คนรวย คือ บุคคลที่มีรายได้มากกว่า 400,000 บาทต่อเดือน และ มีทรัพย์สินรวมมากกว่า 100 ล้านบาท

 คนจน คือ บุคคลที่มีรายได้น้อยกว่า 75,000 บาทต่อเดือน และมีทรัพย์สินรวมน้อยกว่า 150,000 บาท

 “นิสัย” ส่วนใหญ่ของคนรวย กับ “นิสัย” ส่วนใหญ่ของคนจน แตกต่างกันดังนี้

 - คนรวยมี to-do list  คนจนไม่มี 
     หมายถึง การที่เขียนหรือบันทึกสิ่งที่ต้องทำ ทำให้เห็นเป้าหมายสิ่งที่ต้องทำ เป็นการกันลืมซึ่งถ้าเราทำหลายสิ่งพร้อมกันลืมได้ง่ายๆ รายการควรเป็นสิ่งที่ทำได้เลย  ถ้าทำจบไม่ได้ในครั้งเดียว ก็แบ่งย่อยทำ

 - คนรวยตื่นก่อนทำงาน 3 ชั่วโมง คนจนไม่ตื่นเช้า 
     ตื่นก่อนในที่นี้ก็คือต้องพักผ่อนให้เพียงพอ  ตื่นมาแล้วทำอะไรก็อยู่ที่เราวางแผนหรือตารางไว้ อาจจะออกกำลังกาย ทำอาหาร หรือเตรียมของจะใช้ในการทำงาน ฟังเพลง เล่นกับลูก

 - คนรวยฟัง audio book คนจนไม่ฟัง 
     audio book หนังสือเสียง  สื่อที่บันทึกจากหนังสือแบบเรียนหรือสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่นำมาอ่านและบันทึกเสียงในรูปแบบต่าง ๆ 

 - คนรวยพบปะ connection ใหม่ๆ คนจนไม่ค่อยรู้จักคนใหม่ๆ
    ทำให้เป็นการเปิดโลกให้กว้างขึ้น ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ มีเส้นทางที่เปิดกว้างมากขึ้น แต่การคบคนก็คงต้องเลือก ดั่งสุภาษิตที่ว่า "คบคนพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล"

 - คนรวยอ่านหนังสือมากกว่า 30 นาทีทุกวัน คนจนไม่อ่านหนังสือ
     อ่านหนังสือที่มีประโยชน์ เสริมสร้างสุขภาพ เสริมความคิด เพื่อความบันเทิงช่วยให้เราผ่อนคลาย

 - คนรวยรักการอ่าน คนจนไม่ชอบอ่านหนังสือ
    ถ้าเรารักการอ่านจะทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อ  มีสนุก มีความรู้สึกกระหายที่อยากรู้

 - คนรวยออกกำลังกาย คนจนไม่ค่อยออกกำลังกาย
    ถ้าร่างกายเราไม่แข็งแรง ก็ไม่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ จะให้ดีควรออกกำลังกายทุกวัน อาจจะออกอยู่กับที่ ด้วยท่ากายบริหารง่ายๆ หรือจะปั่นจักรยาน  จะวิ่ง  จะใช้อุปกรณ์อื่นๆ เข้ามาช่วย  ขอใหมีวินัย

 - คนรวยไม่ค่อยกิน junk food คนจนชอบกิน
    อาหารเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเราแข็งแรง ถ้าเรารู้จักเลือก ดั่งคำว่า อาหารเป็นยา

 - คนรวยดูทีวีน้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน คนจนชอบดูทีวี
    ถ้าดูทีวีมากเกินไป จะทำให้ไม่สนใจที่ทำงานอื่นๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตประสบความสำเร็จ พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น

 - คนรวยสอนนิสัยดีๆ ให้กับลูกทุกวัน คนจนไม่สอน
    ลูกจะดูเราเป็นแบบอย่าง ซึ่งเราควรจะสอนด้วยทั้งการกระทำและคำพูด

 - คนรวยให้ลูกทำกิจกรรมอาสาสมัครเดือนละ 10 ชั่วโมง คนจนไม่ให้ลูกทำกิจกรรมอะไรเท่าไหร่
   กิจกรรมที่ดีจะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี ในการสามารถพัฒนาทักษะ การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่น

 - คนรวยให้ลูกอ่านหนังสือ คนจนไม่ให้ลูกอ่านหนังสือ
   หนังสือช่วยเพิ่มความคิดที่ดี เพิ่มสมาธิให้ลูก 

 - คนรวยเขียนเป้าหมายลงในกระดาษ คนจนไม่เขียนเป้าหมาย
   การเขียนเป้าหมายลงไปทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น 

 - คนรวยตั้งใจทำเป้าหมายให้สำเร็จ คนจนหยวนง่ายๆ
   เป้าหมายมีไว้พุ่งชน ถ้าไม่สำเร็จขอให้เกิดจากที่พยายามทำเต็มที่แล้ว

 - คนรวยเชื่อว่าการพัฒนาตัวเองสำคัญ คนจนไม่เชื่อ
   การพัฒนาตัวเองทำให้ความคิด อารมณ์ มีการพัฒนาที่ดีขึ้น 
 
 - คนรวยเชื่อว่านิสัยดีๆ สร้างโอกาสดีๆ ได้เสมอ คนจนไม่เชื่อ
   เราสามารถสร้างโอกาสดีๆ เมื่อเรามีนิสัยดีๆ เช่น เมื่อเราทำผิดพลาด ไม่มัวแต่มาโวยวาย โทษนู่นโทษนี่ เรามาดูว่าผิดพลาดเพราะอะไร แล้วปรับปรุงให้ดี

 - คนรวยเชื่อว่านิสัยที่ไม่ดีสร้างผลลัพธ์ที่ไม่ดีได้ คนจนคิดว่าไม่เป็นไร
    ตรงกับสำนวนไทยที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว  

  272 คนจาก 400 คนรวยที่ติดนิตยสาร Forbes นั้นมาจาก “self-made” ส่วน 128 คนที่เหลือนั้นมาจากรับกิจการต่อจากของที่บ้าน

 ถ้ายังมีรายได้น้อยกว่า 75,000 บาทต่อเดือน ถ้าวัด scale ระดับโลกยังถือว่าจนอยู่นะครับ “ศูนย์” สิ่งที่เราต้องทำก็คือ “เปลี่ยนนิสัย” แล้วความมั่งคั่งจะตามมา


 http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=56485

 เครดิต: KongKiat สมาชิกเว็บบอร์ด stock2morrow

#คิดแบบคนรวย   #คิดแบบคนรวย ใครๆ ก็รวยได้   #คนรวยคิดแบบไหน